ไม้โครงเฟอร์นิเจอร์
ไม้โครงเฟอร์นิเจอร์ เป็นไม้ที่จำเป็นต้องใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เนื่องจากสามารถใช้กรุเข้ากับผนังและเป็นโครงตู้ รวมถึงงานเฟอร์นิเจอร์อื่นๆอีกมากมาย
ไม้โครงเฟอร์นิเจอร์มีความจำเป็นอย่างมากในงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เนื่องจากใช้เป็นตัวทำโครงและตู้ต่างๆ ซึ่งไม้โครงนี้ส่วนใหญ่มีขนาดอยู่ที่ ยาว2.5เมตร กว้าง4cm. หนา 2cm. เวลาขายจะขายเป็นมัด มัดละ10เส้น โดยไม้โครงนี้มีลักษณะเป็นบ่าหยักต่อกันด้วยกาวลาเท็กซ์ อัดติดกันด้วยความร้อน การผลิตใช้เศษไม้ต่างๆที่เหลือจากการแปรรูปมาตัดให้ได้ขนาดและนำมาต่อกันจนได้เป็นเส้นยาว2.5m. นั่นจึงทำให้ราคาไม้โครงไม่สูงเท่าระแนงไม้อื่นๆ ที่เต็มแผ่น จึงเหมาะกับการนำมาใช้ทำโครงเฟอร์นิเจอร์ ไม้โครงมีหลากหลายเกรดแบ่งตามประเภทของไม้ที่นำมาใช้ แบ่งได้ดังนี้
1 ไม้ยางพารา เป็นไม้โครงที่นิ่วเหนียวใช้งานง่ายเนื่องจากไม้ยางพารา ขัดง่าย มีสีอ่อน เหมาะกับการย้อมสีและขึ้นรูปทั่วไปได้
2 ไม้โครงสน เป็นไม้โครงที่มีสีอ่อน เหนียว แต่บิดงอง่าย การใช้งานเหมาะกับงานพ่นสี ย้อมสี เนืองจากขัดง่ายมีสีอ่อน ลักษณะจำเพาะเช่นเดียวกับไม้โครงบางพารา เพียงแต่มีทั้งโครงแบบจ๊อย(รอยต่อไม้)และไม่จ๊อย แบบไร้รอยต่อเหมาะแก่การนำไปทำระแนงเล็ก
3 ไม้เบญจพรรณ เป็นไม้โครงที่เป็นการรวมไม้หลากหลายชนิดมาใช้ด้วยกัน มีความแข็งแรงดีเหมาะแก่การทำโครง ราคาไม่แพงแต่มีข้อเสียคือแข็งมากแต่ไม่เหนียวจนอาจเปราะและหักง่าย
4 ไม้ทุเรียน เป็นไม้โครงที่มีเนื้อละเอียดสามารถขึ้นรูปทำงานง่าย ไม่บิดตัว ไม่แอ่น แต่เนื้ออ่อนทำให้การยิงสกรูยึดเกาะได้ไม่แน่นเท่าไม้เบญจพรรณ
5 ไม้สยา มีลักษณะใกล้เคียงกับไม้ทเรียนคือทำงานง่ายไม่บิดตัว แต่ไม้เนื้ออ่อนการยึดเกาะสกรูไม่ดีเท่าที่ควร
6 ไม้ตะเคียน เป็นไม้โครงที่แข็งแรงมาก แข็งแรงไม่บิดตัว แต่ทำงานยากเนื่องจากไม้แข็งตัดได้ยากกว่าไม้โครงชนิดอื่น
7 ไม้ตะแบก เป็นไม้โครงที่เกรดดีมีความแข็งแรงมากเหนียวไม่หักง่าย ไม่โก่ง ไม่แอ่น ทำงานง่ายตัดง่าย
8 ไม้สัก สวนป่า เป็นไม้โครงที่เกรดดีมาก แข็งเหนียว ตัดทำงานง่าย ไม่หักง่ายไม่โก่งไม่งอ แต่ราคาสูง
9 ไม้สักเนื้อ ทีคุณภาพเช่นเดียวกับสักสวนป่า แต่ต่างตรงไม้มีอายุมากกว่าจึงแข็งแรงและเหนียวกกว่า รวมถึงปลวกไม่กิน จึงไม่จำเป็นต้องทาน้ำยากันปลวกเลย
ไม้โครงเหล่านี้ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับงาน ซึ่งการใช้งานไม้โครงนี้ ส่วนใหญ่ช่างเฟอร์นิเจอร์มักนำมาใช้งานหลายอย่าง เช่น
ใช้ทำโครงผนังบิ้วอิน ผนังบิ้วอินต้องมีการขึ้นโครงก่อนให้ได้ตามแบบที่ต้องการ ก่อนปิดทับโครงด้วยไม้อัดยางหรือMDF ก่อนขั้นตอนการปิดแผ่นลาบิเนทหรือพ่นสี
ใช้ทำโครงฝ้าเพดาน ฝ้าเพดานที่มีการตกแต่งด้วยแผ่นลาบิเนทหรือปิดกระจก ควรใช้โครงเหล่านี้ทำเป็นโครงสร้าง เนื่องจากมีความแข็งแรงกว่าโครง C-Line เป็นอย่างมากและทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า
ใช้ทำตู้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้อัดยางในการทำ ต้องมีการขึ้นโครงภายในเพื่อความแข็งแรงของตู้ จึงนิยมใช้ไม้โครง เนื่องจากสามารถขึ้นงานง่ายกว่านำไม้อัดยางมาเป็นโครง
ใช้ทำระแนง ในกรณีที่มีการตกแต่งด้วยระแนง เราสามารถประยุกต์ใช้ไม้โครงยางพาราแบบไร้รอยต่อ มาทำเป็นระแนงได้ เนื่องจากสามารถย้อมสีได้ง่ายเพราะตัวไม้โครงยางพารามีสีอ่อนอยู่แล้ว จึงขับสีย้อมให้เด่นชัดได้ง่ายนั่นเอง
จะเห็นว่าไม้โครงนั้นสามารถช่วยลดเศษไม้ได้อย่างมาก ทั้งสามารถนำมาใช้งานในวงการเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ส่วนความแตกต่าง ท่านคงสามารถเข้าใจและแยกแยะได้ในเบื้องต้นได้แล้ว การใช้งานควรเลือกให้เหมาะสมกับงาน ว่าต้องการทำโครงแบบไหน รับน้ำหนักหรือไม่ หรือจะนำไปย้อมสีพ่นสี ก็ควรเลือกให้เหมาะสมจึงจะงานที่มีคุณภาพตามต้องการ
>>อ่านเพิ่มเติมบทความไม้อัดยางได้ที่นี่ คลิก
>>รับชมผลงานการประยุกต์ใช้ไม้โครงกับฝ้าเพดานได้ที่นี่ คลิก
บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร