ออกแบบคลินิกทันตกรรม ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข
ออกแบบคลินิกทันตกรรม การออกแบบคลินิกทันตกรรมในประเทศไทยต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและกฎระเบียบหลายประการ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องพิจารณาเรื่องสุขอนามัย ความปลอดภัย และการให้บริการที่เหมาะสมอีกด้วย

ออกแบบคลินิกทันตกรรม จะต้องถูกต้องตามหลักอะไรบ้าง
การออกแบบคลินิกทันตกรรมในประเทศไทยต้องเป็นไปตามข้อกำหนดหลายประการเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. กฎกระทรวงสาธารณสุข
- พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541: ระบุข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสถานพยาบาล ซึ่งรวมถึงคลินิกทันตกรรม การออกแบบต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดในด้านพื้นที่ การติดตั้งอุปกรณ์ และความสะอาด เช่น ขนาดพื้นที่ ห้องทำฟัน ห้องฆ่าเชื้อ และห้องพักคนไข้
- ต้องมีระบบการจัดการอากาศและการระบายอากาศที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค
2. กฎหมายควบคุมอาคาร
- พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522: การก่อสร้างและการออกแบบอาคารต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น การออกแบบระบบโครงสร้างอาคาร การป้องกันอัคคีภัย การเดินสายไฟ และการติดตั้งระบบน้ำประปาที่เหมาะสม
- ขนาดพื้นที่ต้องรองรับอุปกรณ์ทันตกรรมได้เพียงพอ เช่น เก้าอี้ทำฟัน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
3. มาตรฐานทางทันตกรรม
- การออกแบบต้องคำนึงถึงการปฏิบัติงานทันตกรรมที่มีประสิทธิภาพ เช่น การจัดวางอุปกรณ์ทางทันตกรรมให้ง่ายต่อการเข้าถึงและใช้งานอย่างสะดวก
- ควรมีพื้นที่แยกสำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทันตกรรม เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
4. การจัดการด้านสุขาภิบาล
- ต้องมีระบบการจัดการของเสียที่ปลอดภัย โดยเฉพาะของเสียทางการแพทย์ เช่น เข็มฉีดยา อุปกรณ์ที่ใช้แล้ว และสารเคมี ต้องถูกจัดเก็บและกำจัดอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
5. ข้อกำหนดด้านการป้องกันรังสี
- หากมีการใช้อุปกรณ์เอกซเรย์ในคลินิก ต้องออกแบบห้องและระบบป้องกันรังสีตามข้อกำหนดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของรังสีไปยังพื้นที่อื่น
6. การจัดแสงสว่างและการออกแบบห้องทำงาน
- แสงสว่างภายในห้องทำฟันต้องเหมาะสมกับการทำหัตถการ เช่น การใช้ไฟที่มีความสว่างเพียงพอและไม่ทำให้เกิดเงาในการทำงาน
- ห้องรอและห้องรับบริการต้องออกแบบให้สะดวกสบาย มีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย และสอดคล้องกับสุขอนามัยที่ดี
7. การออกแบบเพื่อประสบการณ์ที่ดีของผู้ป่วย
- ควรคำนึงถึงการออกแบบเพื่อสร้างความสบายและผ่อนคลายให้กับผู้ป่วย เช่น สีสัน การตกแต่งภายใน และเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยลดความเครียด
การออกแบบคลินิกทันตกรรมต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานเหล่านี้ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การเตรียมตัวในการเปิดคลินิกทำฟันควรเตรียมตัวอะไรบ้าง
การเตรียมตัวในการเปิดคลินิกทำฟันเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียดหลักๆ ที่ต้องเตรียมพร้อม
1. การขออนุญาตและเอกสารที่จำเป็น
- ขอใบอนุญาตประกอบกิจการคลินิกทันตกรรม ต้องยื่นขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ รวมถึงต้องขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมสำหรับทันตแพทย์ที่ทำงานในคลินิก
- จัดทำทะเบียนพาณิชย์ ลงทะเบียนธุรกิจและขอใบทะเบียนพาณิชย์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้คลินิกสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- ขอใบอนุญาตควบคุมการใช้รังสี (หากมีการใช้เอกซเรย์) ต้องขอใบอนุญาตสำหรับการใช้เครื่องเอกซเรย์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
2. การวางแผนธุรกิจและการเงิน
- การวางแผนงบประมาณ คำนวณต้นทุนในการเปิดคลินิก เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์ทันตกรรม ค่าจ้างบุคลากร และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ
- แหล่งเงินทุน วางแผนการจัดหาเงินทุน เช่น การกู้เงินจากธนาคาร การขอสินเชื่อธุรกิจ หรือการใช้เงินทุนส่วนตัว
3. การเลือกสถานที่ตั้ง
- เลือกสถานที่ตั้งที่เหมาะสม เช่น ใกล้ชุมชน โรงเรียน หรือสถานที่ที่มีการเดินทางสะดวก เพื่อดึงดูดผู้ป่วย
- สถานที่ควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับห้องทำฟัน ห้องรอ ห้องฆ่าเชื้อ และห้องเอกซเรย์ (หากมี)
4. การออกแบบและตกแต่งคลินิก
- ออกแบบคลินิกให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านสาธารณสุข เช่น การจัดวางอุปกรณ์ทางทันตกรรม การระบายอากาศที่เหมาะสม และความสะอาด
- ตกแต่งคลินิกให้ดูเป็นมืออาชีพ สะอาด และผ่อนคลาย เพื่อสร้างความมั่นใจและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ป่วย
5. การจัดซื้ออุปกรณ์ทางทันตกรรม
- คัดเลือกอุปกรณ์ทันตกรรมที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เช่น เก้าอี้ทำฟัน เครื่องเอกซเรย์ เครื่องมือทันตกรรมต่างๆ รวมถึงระบบการฆ่าเชื้อที่เหมาะสม
- จัดซื้ออุปกรณ์และวัสดุที่จำเป็นอื่นๆ เช่น อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง ถุงมือ หน้ากาก และวัสดุทางทันตกรรม
6. การจ้างบุคลากร
- จ้างทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น ทันตแพทย์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ และพนักงานต้อนรับ ควรพิจารณาคุณสมบัติ ประสบการณ์ และการให้บริการที่ดี
- ให้การฝึกอบรมและเตรียมความพร้อมด้านบริการลูกค้า การจัดการการใช้เครื่องมือ และมาตรการความปลอดภัยต่างๆ
7. การทำการตลาดและประชาสัมพันธ์
- วางแผนการทำการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ป่วย เช่น การสร้างเว็บไซต์ การโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย และการติดป้ายโฆษณาในบริเวณใกล้เคียง
- เสนอโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดผู้ป่วยในช่วงเริ่มต้น เช่น ส่วนลดหรือบริการพิเศษสำหรับการตรวจฟันครั้งแรก
8. การเตรียมมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัย
- จัดทำแผนการจัดการสุขอนามัย เช่น การฆ่าเชื้อเครื่องมือทางทันตกรรม และการทำความสะอาดสถานที่ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
- เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก ถุงมือ และเสื้อคลุม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
9. การใช้ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีในการจัดการคลินิก
- เลือกใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการคลินิก เช่น โปรแกรมนัดหมายคนไข้ โปรแกรมการจัดการข้อมูลผู้ป่วย และการจัดการสต็อกอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้การบริหารจัดการคลินิกมีประสิทธิภาพ
การเตรียมตัวในการเปิดคลินิกทำฟันต้องพิจารณาทั้งด้านกฎหมาย การเงิน การบริการ และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คลินิกดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

การเริ่มต้นออกแบบและตกแต่งคลินิกโดยบริษัทรับเหมานั้นควรเริ่มขั้นตอนอย่างไร
การออกแบบและตกแต่งคลินิกโดยบริษัทรับเหมาเป็นงานที่ต้องการความละเอียดและการวางแผนที่ดี ตั้งแต่การเริ่มต้นจนถึงการเสร็จสิ้นโครงการ การดำเนินการควรเป็นไปตามขั้นตอนที่ชัดเจนและมีการพิจารณาในด้านต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้คลินิกที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และสะดวกสบายสำหรับผู้ป่วย ดังนี้คือขั้นตอนการออกแบบและตกแต่งคลินิกพร้อมสิ่งที่ต้องพิจารณา
1. การวางแผนเบื้องต้น
- การสำรวจความต้องการของเจ้าของคลินิก ทำความเข้าใจความต้องการของเจ้าของคลินิกว่าต้องการรูปแบบไหน มีสไตล์การออกแบบแบบใด และพื้นที่การใช้งานในแต่ละส่วนเป็นอย่างไร
- การศึกษากฎระเบียบ พิจารณาข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติสถานพยาบาล และกฎหมายควบคุมอาคาร ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบคลินิก เช่น การควบคุมการใช้รังสี ระบบสุขอนามัย และการระบายอากาศ
- การจัดงบประมาณ วางแผนการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มี คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งในการออกแบบ การก่อสร้าง และการติดตั้งอุปกรณ์
2. การออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน
- การจัดทำแบบร่าง (Concept Design) บริษัทรับเหมาจะเริ่มด้วยการออกแบบเบื้องต้น รวมถึงการกำหนดผังพื้นที่ที่ชัดเจน เช่น ห้องทำฟัน ห้องรอ ห้องฆ่าเชื้อ และการออกแบบโครงสร้างทั่วไป
- การทำแบบ 3D เพื่อให้เจ้าของคลินิกเห็นภาพชัดเจนของการออกแบบในแต่ละส่วน และสามารถปรับแก้ไขได้ก่อนเริ่มการก่อสร้างจริง
- การเลือกวัสดุและสี พิจารณาเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานในคลินิก รวมถึงการเลือกโทนสีที่สร้างความสบายตาและผ่อนคลาย เช่น สีฟ้า สีเขียว หรือสีขาวที่ทำให้รู้สึกสะอาดและปลอดภัย
3. การขออนุญาต
- ขออนุญาตการก่อสร้างและปรับปรุง ส่งแบบแปลนที่ได้รับการอนุมัติจากเจ้าของคลินิกไปยังหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อขอใบอนุญาตก่อสร้างและปรับปรุงอาคาร
- ขอใบอนุญาตใช้เครื่องเอกซเรย์ (ถ้ามี) ต้องยื่นขออนุญาตใช้อุปกรณ์เอกซเรย์ตามกฎหมาย
4. การก่อสร้างและการติดตั้งระบบ
- การเริ่มก่อสร้างโครงสร้าง บริษัทรับเหมาจะเริ่มงานก่อสร้างตามแบบที่ได้รับอนุมัติ โดยแบ่งงานเป็นขั้นตอนต่างๆ เช่น การปรับพื้นที่ การก่อสร้างผนัง ระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ
- การติดตั้งระบบสุขาภิบาล ระบบการจัดการน้ำและของเสียต้องมีการวางแผนและติดตั้งให้ถูกต้องตามข้อกำหนดสุขาภิบาล
- การติดตั้งระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง ต้องมีการวางระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัย รวมถึงการจัดแสงสว่างในห้องทำฟันให้เพียงพอต่อการทำงานของทันตแพทย์
- การติดตั้งระบบปรับอากาศและระบายอากาศ การระบายอากาศภายในคลินิกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค
5. การตกแต่งภายใน
- การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ทันตกรรม ติดตั้งอุปกรณ์ทางทันตกรรม เช่น เก้าอี้ทำฟัน เครื่องเอกซเรย์ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ในห้องรอ เช่น เก้าอี้รอ โต๊ะ และตู้เก็บอุปกรณ์
- การตกแต่งผนังและพื้น เลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ทนทาน และปลอดภัย เช่น กระเบื้องปูพื้น ผนังที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
- การตกแต่งห้องรอและห้องทำงาน พิจารณาออกแบบห้องรอให้เป็นมิตรกับผู้ป่วย เช่น การจัดวางโซฟาที่สบาย การใช้แสงสว่างธรรมชาติ และการตกแต่งด้วยพืชสีเขียว
6. การตรวจสอบคุณภาพและส่งมอบงาน
- การตรวจงานก่อสร้าง หลังจากเสร็จสิ้นการก่อสร้างและการตกแต่ง บริษัทรับเหมาจะทำการตรวจสอบคุณภาพงานในทุกด้าน เช่น ความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และการติดตั้งอุปกรณ์
- การตรวจสอบตามข้อกำหนดของกฎหมาย เช่น การตรวจการใช้เครื่องเอกซเรย์ การตรวจความปลอดภัยในระบบสุขาภิบาล และการตรวจสอบตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ส่งมอบงาน หลังจากตรวจสอบและแก้ไขส่วนที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว บริษัทรับเหมาจะส่งมอบงานให้กับเจ้าของคลินิก พร้อมทั้งการอบรมเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและการบำรุงรักษา
7. การเปิดใช้งานและการบำรุงรักษา
- การอบรมทีมงาน ให้การอบรมพนักงานและทันตแพทย์เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่และเครื่องมือ
- แผนการบำรุงรักษา วางแผนการบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางทันตกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คลินิกดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การเริ่มต้นออกแบบและตกแต่งคลินิกควรคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า มาตรฐานความปลอดภัย และข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อให้คลินิกที่สร้างเสร็จสมบูรณ์มีคุณภาพและพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ
ต่อไปเป็นส่วนหนึ่งของงานออกแบบคลินิกทันตกรรมโดยผลงานมัณฑนากรของเรา
- OWNER : คุณแพร
- PROJECT : งานออกแบบคลินิกทันตกรรม
- LOCATION : มีนบุรี กรุงเทพมหานคร
- DESIGN : มัณฑนากร บริษัท ไทยมาวีกรุ๊ป จำกัด
- STYLE : Modernl Style
- PRICE : 1,500,000.-
- DETALE : งานออกแบบคลินิกทันตกรรมจากตึกแถวเก่า 2 คูหาให้เป็นคลินิกใหม่ในสไตล์โมเดิร์นที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด โดยตึกแถวดังกล่าวเป็นตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง ที่นำพื้นที่ทั้งหมดมาตกแต่งเป็นคลินิกทั้งหมด3ชั้น










ออกแบบคลินิกทันตกรรม โดยบริษัทรับเหมาจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงการส่งมอบงาน การพิจารณาความต้องการเฉพาะและการปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายจะช่วยให้คลินิกมีคุณภาพ ปลอดภัย และพร้อมให้บริการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
>>คลินิกเสริมความงาม คลิก
>>คลินิกความงามในโรงพยาบาล คลิก
“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและรีโนเวทตกแต่ง เพราะนอกจากเสนองานออกแบบที่มีคุณภาพให้แก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ในการก่อสร้างเบื้องต้นให้แก่ท่านด้วยด้วย เพราะความรู้ที่ถูกต้องนั้น จะช่วยให้ท่านรู้จริง รู้ทัน อันจะทำให้ท่านได้รับแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้องนั่นเอง” บริษัทเรารับออกแบบก่อสร้าง รีโนเวท และตกแต่งภายในอาคารทุกประเภทด้วยสถาปนิกและมัณฑนากรมืออาชีพ รวมถึงทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร