ออกแบบก่อสร้างร้านกาแฟ คาเฟ่ จะต้องทำแล้วให้ปัง
ออกแบบก่อสร้างร้านกาแฟ คาเฟ่ นั้นในปัจจุบันไครๆก็อยากเปิด แต่เปิดแล้วจะทำอย่างไรให้สำเร็จ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากเข้าใจหลักเหล่านี้ การเปิดร้านกาแฟกับคาเฟ่นั้นต่างกันหลายท่านอาจยังไม่เข้าใจมากนักถึงความต่างเหล่านี้ จะขอแยกให้เข้าใจง่ายๆเรื่องแรกนี้ก่อน
ร้านกาแฟ คือร้านที่ขายกาแฟ ชา หรือเบเกอรี่ รวมถึงของหวานอื่นๆอีกเล็กน้อย ร้านกาแฟนั้นมีขนาดไม่ใหญ่ ส่วนมากมักมีขนาดไม่เกิน 40 ตารางเมตร(หากใหญ่กว่านี้แต่อยู่ในอาคารก็มักจะจัดให้เป็นร้านกาแฟ)โดยจะอยู่ในอาคารหรือนอกอาคารก็ได้ทั้งสิ้น มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งทานเป็นโต๊ะกาแฟ2ที่นั่งบ้าง หรือโต๊ะใหญ่ที่นั่งได้4-5คนบ้าง แต่ที่สำคัญหากไม่มีการตกแต่งสวนหญ้าสวนต้นไม้ที่อยู่ด้านนอกอาคารจะถูกจัดให้เป็นร้านกาแฟทั้งสิ้น
ร้านคาเฟ่ ก็เหมือนกับร้านกาแฟแต่มีเพิ่มเติมเข้ามาคือ “เมนูที่ขาย บรรยากาศ และกิจกรรม” โดยคาเฟ่นั้นจะมีเมนูที่ขายมากกว่าร้านกาแฟซึ่งบางที่อาจมีอาหารไทยหรือยุโรปเช่น สลัด สปาเก็ตตี้เพิ่มเข้ามาขายด้วย และมีบรรยากาศที่ดีให้ได้สัมผัสได้ บรรยากาศที่ลูกค้าได้รับมักจะเป็นแนวสวนตกแต่งร่มรื่นสวยงาม วิวทุ่งนา วิวภูเขา หรือวิวทะเล/แม่น้ำเป็นต้น รวมถึงต้องมีกิจกรรมให้ลูกค้าได้ทำถึงจะเรียกว่าคาเฟ่ได้ กิจกรรมที่ว่าก็เช่น การถ่ายรูปกับบรรยากาศต่างๆ เช่น ถ่ายคู่กับจุดเช็คอินต่างๆที่มี ถ่ายกับทุ่งนา ถ่ายกับวิวภูเขา ถ่ายกับช้าง ถ่ายกับแกะ ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมโต๊ะพลู หรืออื่นๆที่ทางร้านได้จัดไว้ให้ นี่ถึงเรียกว่า”กิจกรรม” ส่วนใหญ่คาเฟ่กว่า90%มักเป็นร้านที่ไม่ได้อยู่ในอาคารหากแต่สร้างขึ้นต่างหากด้านนอกซึ่งติดกับถนนอีก ส่วน10%ที่เหลือจะอยู่ในอาคารห้างต่างๆแต่เรียกว่าคาเฟ่ได้ก็เพราะมีกิจกรรมเหล่านี้ให้ได้ทำมากกว่าการนั่งดื่มกาแฟเฉยๆทั่วไป
ถึงตรงนี้ท่านคงแยกออกในเบื้องต้นว่าร้านกาแฟกับคาเฟ่นั้นต่างกันอย่างไร อยู่ที่ท่านจะเลือกพื้นที่และกลุ่มเป้าหมายรวมถึงงบประมาณไว้ว่าอย่ากจะเปิดอะไร แต่นั่นคงสำคัญไม่เท่ากับการที่เปิดแล้วต้องปัง ขายดี และสร้างชื่อได้ นี่แหละคือสิ่งที่ควรต้องทำให้ได้ ให้คุ้มค่ากับการลงทุน ผู้เขียนทำการออกแบบก่อสร้างร้านกาแฟ คาเฟ่ให้กับลูกค้าที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีที่ประสบความสำเร็จขายดีเปิดแล้วไม่เจ๊งมาแล้วก็มาก และเจ้งไปก็มีจากความเชื่อของลูกค้าที่มีแบบผิดๆ
หากท่านคิดจะเปิดร้านกาแฟหรือคาเฟ่หากท่านอย่ากปัง ท่านจะต้องเริ่มตามลำดับดังนี้
1 สำรวจความชอบและงบประมาณของตนเอง ก่อนอื่นท่านจะต้องมีใจรักและอยากทำอย่างจริงจัง พร้อมที่จะสละเวลาทั้งหมดของท่านเพื่อทุ่มเทในธุรกิจนี้ให้ได้อย่างจริงจัง เพราะการทำธุรกิจใดๆ ท่านต้องใส่ใจ ฟูมฟัก อยู่กับสิ่งนั้นไปตลอดจนกระทั่งธุรกิจนั้นอยู่ตัวแล้ว มีระบบจัดการที่ดีแล้ว นิ่งแล้ว เมื่อนั้นท่านถึงจะเอาตัวเองออกมาจากความทุ่มเทนั้นได้ ปล่อยให้ระบบที่ดีจัดการธุรกิจนั้นต่อไปเอง แต่หากท่านไม่ค่อยมีเวลา ไม่พร้อมทุ่มเท ไม่พร้อมสละ ร้านของท่านอาจไม่ถึงฝั่งฝัน หากท่านพร้อมต่อไปต้องดูที่งบประมาณว่าท่านมีงบในการทำเท่าไหร่ หากท่านเป็นคนคิดใหญ่ทำใหญ่พร้อมที่จะเสี่ยงแล้วเลือกลงทุนแบบที่การลงทุนนั้นวิเคราะห้ไว้อย่างดีแล้ว แล้วอยากลงทุนครั้งนึงที่ได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าเลย คำตอบคือการเลือกเปิดคาเฟ่ ซึ่งเงินลงทุนสำหรับคาเฟ่นั้นมีไม่ต่ำกว่า1ล้านบาทขึ้นไปจนถึงมากกว่า10ล้านขึ้นอยู่กับการวางแผนโปนเจ็กนั้นๆแน่นอน แต่หากท่านยังใหม่ยังไม่พร้อมจะลงทุนมากแบบนั้นอยากลงทุนในหลักแสน(1-9แสน)ก็ให้เลือกทำร้านกาแฟ
2 วิเคราะห์ตลาด เมื่อท่านตั้งในอย่างแน่วแน่แล้วต่อมาท่านต้องเลือกว่าท่านจะทำร้านนี้ที่ไหน และวิเคราะห์ว่าคนในพื้นที่นั้นๆใช้ชีวิตแบบไหน เป็นชีวิตคนเมืองที่ต้องมีการนัดเจรจาคุยงานกันบ่อยๆแต่ที่นั้นๆไม่ค่อยมีสถานที่ให้พบปะพูดคุยเสียเท่าไหร่ หรือพื้นที่นั้นๆเป็นทางผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวหรือไม่ สามารถเป็นจุดแวะพักได้ไหม หรือในพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ดึงเงินจากนักท่องเที่ยวเป็นหลัก หรือหากจะทำให้เป็นLandmarkแห่งใหม่ก็ต้องวิเคราะห์อีกว่าจะเอาลูกค้าจากในพื้นที่ซึ่งคนในพื้นที่มีเงินพอจะจ่ายกาแฟแก้วละร้อยได้หรือไม่หรือจะดึงมากจากที่อื่นซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว ต่างๆเหล่านี้นั้นท่านต้องสละเวลาอย่างมากเพื่อทำResearchอย่างละเอียด เพราะเงินลงทุนนั้นจะต้องคุ้มค่าไม่สูญหายไปจากการลงทุนโดยไม่วิจัยก่อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆที่ท่านมองข้ามไม่ได้เลย
3 ที่ตั้ง ร้านของท่านจะเปิดพื้นที่ไหนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเลือก ซึ่งเมื่อเลือกได้แล้วถึงจะทำการวิเคราะห์ที่ตั้งและทำเลได้ต่อไป หากเป็นในห้างก็ต้องมีทำเลที่ไม่อยู่ในซอกที่คนผ่านน้อย ต้องอยู่ด้านนอกหรือด้านในก้ได้ที่ต้องค้นหาได้ง่ายเพราะลุกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามักจะนัดพบเจอกันเพื่อคุยธุรกิจหรือจะนั่งทำงานก็แล้วแต่ การค้นหาที่ตั้งได้ง่าย และจำง่าย เป็นที่ๆคนเดินผ่านมากจะเป้นทำเลทองที่ดี ผู้เขียนอยากจะแนะนำว่าถึงแม้ค่าเช่าจะแพงกว่าแต่การแพงกว่าแลกมากับลุกค้าที่มีมากกว่าย่อมสร้างผลกำไรได้มากจนสามารถล้นเกินค่าเช่ามาเป็นกำไรได้ แต่หากค่าเช่าถูกกว่าแต่ทำเลไม่ดี แค่ค่าเช่าอาจจะไม่สามารถหาได้ให้เท่าทุนเลยด้วยซ้ำ ส่วนด้านนอกที่เป็นคาเฟ่นั้นควรเป็นพื้นที่ที่มีทำเลที่ดีติดถนนใหญ่บรรยากาศสวยจริงๆเป็นหลัก ไม่ควรต้องเลี้ยวรถเพื่อเดินทางเข้าไปต่อ หากแต่การเลี้ยวรถเพื่อเข้าไปนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องเลี้ยวเข้าไปอยู่แล้วซึ่งที่ตั้งของเราเป็นทางผ่านและมีวิวที่สวยงามมากจริงๆ (แต่หากทำเลนั้นเป็นทำเลที่ดีแต่วิวไม่สวยมากนักเราก็สามารถสร้างวิวนั้นขึ้นมาได้นั่นอยู่ที่ลำดับถัดไปคือส่วนของการออกแบบ)
4 วิเคราะห์คู่แข่ง เมื่อได้ทำเลแล้วลำดับถัดไปนอกจากวิเคราะห์ตลาดแล้วต้องวิเคราะห์คู่แข่งด้วย โดยจะต้องดูว่าในละแวกที่ติดกันนั้นมีคู่แข่งหรือไม่ หากมีคู่แข่งทำการตกแต่งอย่างไร เราจะออกแบบยังไงให้เด่นกว่าเค้ารวมถึงเมนูต่างๆ ราคา บรรยากาศ กิจกรรม ฯลฯ ทุกๆอย่างให้นำมาเรียงเป็นข้อๆๆ แล้วหาจุดที่เราจะทำให้เหนือกว่า ทำแล้วต้องดีกว่าคู่แข่งถ้าไม่ดีกว่าเค้าห้ามทำเด้ดขาด การลงทุนนั้นอาจสูญเปล่าซึ่งมีโอกาศเป็นไปได้สูง เมื่อวิเคราะห์แล้วจึงนำสิ่งที่ได้เหล่านั้นไปออกแบบให้เป็นเอกลักาณ์ของตัวเอง (โดยขั้นตอนเหล่านี้บริษัทออกแบบสามารถช่วยท่านได้)
5 หาผู้ออกแบบ ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่มองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาดเลยทีเดียว นักออกแบบที่ดีไม่ว่าจะเป็นสถาปนิกหรือว่ามัณฑนากรก็ดีต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวเพราะเค้าสามารถแนะนำและสร้างสรรค์ผลงานให้ท่านได้อย่างน่าประหลาดใจ ประสบการณ์เหล่านี้จะทำให้งานออกแบบของท่านเด่นกว่าคู่แข่ง การจัดวางLayoutที่ดีที่สามารถสร้างได้จริงไม่ฟุ้งจนเกินไจนไม่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ การจัดสวนLandscapeที่ดีก็สามารถสร้างบรรยากาศให้กับลูกค้าให้ลูกค้าประทับใจได้ไม่ยาก สิ่งต่างๆเหล่านี้นั้นหากท่านลงทุนกับผู้ที่มีความสามารถจะเป็นการลงทุนที่สามารถนำท่านไปสู่ความสำเร็จได้อย่างดี
Tick : ปังไม่ปังอยู่ที่ขั้นตอนนี้ 80% หากผู้ออกแบบมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยเฉพาะ การเป็นผู้รู้จริงทำจริงจะทำให้ท่านได้แบบที่ตรงกับงบประมาณและงานออกแบบ ออกแบบมาแล้วโดดเด่นกว่าคู่แข่ง มองดูแล้วว้าวน่าเข้า ส่วนปัจจัยควบคู่ที่มากับงานออกแบบคือวิสัยทัศน์ของท่านว่าท่านอยากให้ร้านออกมาในสไตล์ไหนและมีกิจกรรมในคาเฟ่เป็นแบบไดแบบไหน ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญอย่างมาก
6 สำรวจหน้างานจริง เมื่อหาผู้ออกแบบที่ดีที่มีประสบการณ์ตรงและมีความสามารถเฉพาะทางได้แล้วก็ต้องทำการนัดเข้าสำรวจพื้นที่หน้างานจริง วัดพื้นที่จริง เพื่อวิเคราะห์หน้างาน สไตล์คู่แข่ง หรือหากเป็นคาเฟ่ก็ต้องดูทิศทางแสงแดดตกกระทบเช้า-บ่ายเพื่อออกแบบได้ตรงความต้องการกับพื้นที่นั่งOutdoorและดีที่สุด รวมถึงพืนที่ลาดชันหรือหลุมบ่อต่างๆเพื่อดูความเป็นไปได้ของปรับสภาพพื้นที่ก่อนทำการก่อสร้างจริง
Tick : ในขั้นตอนนี้ทางผู้ออกแบบจะต้องมีคำแนะนำให้ท่านได้ในหลายๆเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งข้อสงสัยต่างๆที่ท่านมีและหาคำตอบไม่ได้ ท่านสามารถปรึกษากับทางผู้ออกแบบได้ในขั้นตอนนี้
7 ขั้นตอนการออกแบบ เมื่อถึงขั้นตอนนี้ทางผู้ออกแบบสามารถออกแบบตามความต้องการของท่านเพื่อเสนอแนวคิดไอเดียต่างๆ ของร้านให้ปังและโดดเด่น ซึ่งในขั้นตอนนี้ให้ท่านตรวจแบบดูว่าตรงกับสิ่งที่ท่านทำการวิจัยและวางแผนไว้หรือไม่ หรือทางผู้ออกแบบได้ออกแบบเสนอแนวคิดต่างๆเป็นไปตามที่ท่านได้คิดไว้หรือเปล่า ซึ่งหากไม่ก็ให้ทำการปรับแก้แบบปรับจูนทุกอย่างให้ลงตัว จนทุกอย่างลงตัวจึงเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้างและตกแต่งต่อไป
Tick : ในขั้นตอนนี้ให้ตรวจสอบแบบว่าตรงตามงบประมาณด้วยหรือไม่ เพราะหากไม่ควบคุมงบในขั้นตอนนี้ด้วยการหาวัสดุทดแทนราคา งานก่อสร้างจะไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ และจะเกิดการแก้ไขแบบที่วุ่นวาย ซึ่งผู้ออกแบบที่เป็นระบบงาน Turnkey สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
8 ขั้นตอนการก่อสร้างและตกแต่ง เมื่อถึงขั้นตอนนี้ท่านสามารถปล่อยวางให้ทางผู้รับเหมาที่ท่านเลือกมาอย่างดีที่มีประสบการณ์จัดการก่อสร้างให้ตรงตามแบบได้ แต่ท่านต้องมาหมั่นตรวจงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้งานก่อสร้างและตกแต่งเกิดความล่าช้า และเพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดจากปัญหาหน้างานที่ทางผู้รับเหมาจะสามารถปรึกษาหาทางออกกับท่านได้ทันท่วงที ซึ่งในขั้นตอนนี้ท่านจะว่างอยู่ซักพักนึง ท่านสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่านต่างๆได้ และสามารถนำเข้ามาแก้ไขเพิ่มเติมในงานก่อสร้างได้ทันท่วงทีอีกด้วย นับว่าท่านสามารถใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
9 ขั้นตอนการหาทีมงาน ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมากอีกหนึ่งขั้นตอน ซึ่งท่านจะใช้เวลาช่วงที่ทำการก่อสร้างและตกแต่งในการหาทีมงานของท่านไม่ว่าจะเป็นหน้าเคาร์เตอร์ หรือพนักงานในส่วนอื่น ท่านต้องมีการจัดการฝึกอบรมให้สามารถทำกาแฟหรืออาหารอื่นออกมาในรสชาดที่ท่านต้องการให้ได้ โดยท่านจะต้องเป็นผู้มีความรู้อย่างถ่องแท้ในเรื่องนี้ เพราะรสชาตทุกอย่างจะปรากฎออกสู่ลูกค้าเมื่อท่านเปิดร้าน ท่านจะต้องเป็นผู้กำหนดว่าผ่านหรือไม่ผ่าน และการอบรมการฝึกจะช่วยให้เมื่อเปิดร้านจริงทุกอย่างจะออกมาเป็นมาตราฐานเดียวกัน ซึ่งร้านท่านสามารถสร้างชื่อได้หรือไม่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่ขั้นตอนการอบรมและหาพนักงานนี้
Tick : บางครั้งในช่วงแรกท่านต้องลงมือปรุงเองทำเองอย่างรู้จริงเพื่อให้ทุกอย่างเกิดความเชื่อใจจากลูกน้อง และให้เกิดเป็นสิ่งที่เป็นกิจวัตรที่ทีมงานของท่านต้องทำให้ได้แบบนี้ ซึ่งการชงกาแฟสดหรืออื่นๆนี้มีเปิดสอนอยู่ทั่วไปท่านสามารถไปหาเรียนได้
10 การตรวจรับงาน จัดร้าน เมื่องานก่อสร้างและตกแต่งโดยผู้รับเหมาจบลงท่านจะต้องตรวจงานให้ได้ตรงตามแบบและข้อตกลงทุกประการ จนเมื่อหมดหน้าที่ของผู้รับเหมาและผู้ออกแบบแล้ว ต่อไปจะเข้าสู่งานของท่านอย่างเต็มตัว ท่านจะต้องหาวัสดุในการใช้บริหารจัดการมาลง เช่น เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แคชเชียร์ อุปกรณ์ชงกาแฟ ตู้แช่ ฯลฯ และอื่นๆอีกมากมาย ในขั้นตอนนี้ท่านจะต้องเตรียมทุกอย่างสั่งทุกอย่างมาเตรียมไว้ก่อนร้านเสร็จ จนเมื่อผู้รับเหมาส่งงานท่านจึงนำสิ่งต่างๆมาจัดให้เข้าที่เข้าทางให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับวันเปิดร้าน
11 การตลาดควบคู่กับการเปิดร้าน ก่อนเปิดร้านท่านจะต้องทำการตลาดโปรโมททุกวิถีทางทั้งการสร้างเพจของร้าน การโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ โปรโมชั่นวันเปิดร้านมีส่วนลดหรือการได้ฟรีต้องแลกมากับอะไร หรือทำอย่างไรถึงได้ส่วนลด เป็นต้น แคมเปญต่างๆควรคิดและทำตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด เพราะวันแรกหากมีลูกค้าเข้าร้านมากจะมีผลต่อการมองเห็นของผู้คนโดยรอบ มีผลต่อการบอกต่อ ทั้งยังสามารถนำภาพวันเปิดร้านทำการโปรโมทประชาสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งท่านและทีมงานจะมีขวัญกำลังใจที่ดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหากลูกค้าเต็มร้านท่าน ควรทำมากกว่าท่านไม่ทำอะไรเลยปล่อยให้วันเปิดร้านเงียบเชียบ ท่านและทีมงานจะหมดกำลังใจตั้งแต่วันแรก
Tick : ส่วนลดมากถึงฟรีต้องแลกกับการแชร์หรือบอกต่อให้คนเข้ามาซื้อเพื่อทำกำไร ขาดทุน-เท่าทุนตอนนี้แลกกับการได้กำไรในอนาคตเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมาก คนมากเต็มร้านนั้นเป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่มีผลต่อการมองเห็นของผู้คนโดยรอบ ท่านจะมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เลย
12 โปรโมชั่นและเมนูSpecial สิ่งเหล่านี้ควบคู่กับงานร้านค้า ในช่วงแรกๆท่านจะต้องจมอยู่กับสิ่งเหล่านี้เพื่อคิดสิ่งใหม่ๆ ให้ร้านของท่านมียอดขายกำไรที่นิ่งและอยู่รอดให้ได้ การคิดแคมเปญต่างๆโปรโมชั่น การทำการตลาดล้วนแต่ช่วยผลักดันส่งเสริมให้ร้านกาแฟหรือคาเฟ่ของท่านไม่อยู่กับสิ่งเดิมๆแต่มีอะไรใหม่ๆอยู่ตลอด ท่านจะต้องทำให้ชื่อร้านท่านตลาด และเมื่อชื่อติดตลาด ท่านถึงจะปล่อยใช้ชื่อเสียงเป็นตัวทำงานได้ต่อไป
13 การสร้างระบบบริหารจัดการ หากท่านไม่อยากเหนื่อยไปตลอดท่านต้องใช้เงินทำงาน ท่านต้องสร้างทีมงาน สร้างระบบมาควบคุม แล้วท่านจะสามารถถอยตัวเองไปลงทุนใหม่ๆได้ต่อไป
14 การขยายสาขา เป็นการสร้างชื่อให้กว้างขึ้นในอีกวิธีหนึ่ง ทำให้ชื่อร้านของท่านได้เป็นที่รู้จักในมุมกว้างขึ้น ทั้งยังเพิ่มส่วนแบ่งกำไรมาให้ท่านอีกด้วยอีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงหากสาขาใดสาขาหนึ่งยอดขายตกลงไปท่านก็ยังมีอีกหลายสาขาที่ผลกำไรดีช่วยพยุงเอาไว้
ทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ที่ท่านหาอ่านไม่ได้จากที่ไหน มันเป็นแนวทางจากลูกค้าของผู้เขียนที่ประสบความสำเร็จแล้วทั้งสิ้น ซึ่งถ้าท่านต้องการออกแบบก่อสร้างร้านกาแฟ คาเฟ่หรือจะเป็นร้านอาหารก็ตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้ท่านรอดจากการแข่งขันในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
หากท่านต้องการที่จะออกแบบก่อสร้างร้านกาแฟ คาเฟ่ เมื่อท่านลงทุนกับสิ่งใดก็ตามนั้น สิ่งสำคัญก็คือการมีพันธมิตรกับทีมงานที่ดีการเลือกลงทุนโดยใช้คนที่มีความสามารถมาทำงานให้นั้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมาก เพราะท่านจะได้ประสบการณ์จากพวกเค้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการหาทีมงานมาออกแบบหรือการหาทีมงานมาทำงานในร้านของท่านก็ตาม
>>การออกแบบกับการลงทุนเพื่อรับกำไรกลับ10เท่า คลิก
>>ออกแบบตามงบประมาณทำให้ได้อย่างไร คลิก
>>ร้านคาเฟ่ลงทุนน้อยแต่สวยมาก คลิก
>>ร้านกาแฟตู้คอนเทรนเนอร์ คลิก
“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับสร้างบ้านและรีโนเวท เพราะนอกจากเสนองานออกแบบและสร้างบ้านให้แก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ในการก่อสร้างด้วย เพราะความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้ท่านรู้จริงและรู้ทันช่างและได้รับแต่สิ่งที่ดีนั่นเอง” บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในร้านอาหารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรมืออาชีพและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร