หันหน้าบ้านไปทิศไหนดี
หันหน้าบ้านไปทิศไหนดี เป็นสิ่งที่หลายท่านที่ต้องการปลูกบ้านทราบ เพราะเป็นหลักพื้นฐานในการตัดสินใจออกแบบและอยู่อาศัยได้ในอนาคต เพราะบ้านจะอยู่กับท่านไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว ทีนี้เรามาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของความต้องการในการอยู่อาศัยทั่วๆไปกันก่อนว่า หลายท่านมีหลักคิดพื้นฐานอย่างไร ก่อนที่เราจะนำไปอิงจากหลักของความเป็นจริงและฮวงจุ้ยได้ต่อไป
1 ต้องการให้บ้านเย็น อยู่แล้วไม่ร้อน ผู้เขียนเชื่อว่านี่คงเป็นความต้องการส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ที่เจ้าของบ้านเกือบทุกๆหลังต้องการให้บ้านของท่านมีลักษณะแบบนี้
2 ต้องการไม่ให้แดดเข้าภายในบ้าน นี่ก็คงเป็นอีกความต้องการ แต่ต้องวิเคราะห์อีกว่า ไม่ต้องการแดดในช่วงไหน เช้าหรือบ่าย เพราะกิจกรรมในบ้านแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน
3 ทิศถูกบังคับด้วยที่ดินและถนนหน้าบ้านจึงต้องเลยตามเลย แต่ผู้เขียนเชื่อว่าก่อนซื้อที่ดินหลายท่านคงวิเคราะห์ก่อนซื้อแล้วว่าจะซื้อที่ดินนี้และปลูกบ้านได้ตามใจต้องการได้หรือไม่
นี่คือปัจจัยส่วนใหญ่ที่เจ้าของบ้านมีและต้องการ ต่อไปคือการวิเคราะห์โดยอ้างจากหลักของธรรมชาติคือทิศทางแสงแดดและทิศทางลม ซึ่งตามที่ท่านได้ทราบไปแล้วเบื้องต้นว่าทิศมี4ทิศ คือทิศเหนือ ทิศตะวันออก ทิศใต้ และทิศตะวันตก แต่ปัจจัยที่แสงแดดส่องตามทิศนั้นจะไม่ตรงตามทิศ100%เสมอไป จะขึ้นกับปัจจัยของเดือนและฤดูกาลด้วย เพราะแกนโลกเอียง การหมุนตัวของโลกตามพระอาทิตย์จึงไม่เหมือนกันทุกเดือน ผู้เขียนขอให้ท่านศึกษาเรื่องทิศทางแสงแดดให้เข้าใจก่อนจากบทความนี้ คลิก ซึ่งเมื่อท่านได้อ่านและศึกษาแล้วจะเห็นว่ากิจกรรมของท่านสำคัญสำหรับการเลือกทิศอย่างมาก แต่โดยสรุปส่วนใหญ่เจ้าของบ้านก็ต้องการให้หน้าบ้านหรือลานกิจกรรมในช่วงเย็นร่มและลมพัดเย็น ซึ่งถ้าหน้าบ้านคือลานกิจกรรมด้วย(โดยอิงจากตำแหน่งกิจกรรมที่ทำภายในบ้านเป็นหลัก) ทิศที่ถูกเลือกส่วนใหญ่หากเน้นที่แสงอาทิตย์เป็นหลักผู้เขียนแนะนำเป็นทิศใต้เพราะจะได้รับลมจากทิศตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านเข้าบ้านทำให้บ้านเย็นขึ้นได้ แต่ข้อเสียอย่างมากคือการได้รับแสงแดดเป็นเวลานานกว่า6เดือน ลมพัดเข้าบ้านก็จริงแต่ย่อมสู้ความร้อนจากแสงแดดไม่ได้ นั่นจึงมีอีกทางเลือกที่อาจดีกว่าคือยอมเสียสละเวลาช่วงเช้าให้แดดส่องถึงไปเลย(ซึ่งแดดเช้าไม่ร้อนเท่าแดดช่วงบ่าย)เพราะช่วงเช้าคือช่วงที่ต้องทำงานหรืออาจยุ่งอยู่ภายในบ้าน แต่ในตอนบ่ายแดดจะร่มลงไปเลยจนถึงช่วงเย็น(จากเงาตกกระทบของตัวบ้านเอง) และจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดทั้งปี“ไม่ว่าพระอาทิตย์จะอ้อมไปทางไหนฤดูไหนๆช่วงบ่ายก็จะร่มเย็นเสมอ” ส่วนกระแสลมนั้นให้ปรับช่องรับลมประตูหน้าต่าง และช่องลมให้สามารถรับลมได้จากทิศตะวันตกเฉียงใต้แทน ให้มีลมไหลเข้าและอบอวนอยู่ซักพักภายในบ้านก่อนที่จะไหลออกไป ซึ่งมีหลักการบังคับกระแสลมจากประตูหน้าต่างจากการจัดวางตำแหน่งได้ นี่คือหลักโดยอิงจากหลักทางธรรมชาติ
ส่วนในทางฮวงจุ้ยนั้นเราจะมาวิเคราะห์กันว่ามีหลักอย่างไรแล้วจะอ้างอิงจากหลักทางธรรมชาติได้หรือไม่ โดยจะขออ้างอิงจากหลักฮวงจุ้ยทั้ง4ทิศ ดังนี้
1. บ้านที่หันหน้าทางทิศใต้ โดยเฉพาะหากเป็นประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรแล้ว โดยส่วนใหญ่พระอาทิตย์จะโคจรแบบอ้อมทางทิศใต้ ภาพรวมของทิศใต้นั้นจะเป็ศทิศทางที่ร้อนตลอดทั้งปี ในศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นจึงถือว่าเป็นทิศทางที่มีพลังงานของ “ธาตุไฟ”
2. บ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือ ในทางกลับกันกับทิศใต้ ทิศเหนือเป็นทิศที่พระอาทิตย์แทบจะไม่โคจรอ้อม โดยเฉพาะประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร บ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือแทบจะไม่โดนแดดเลยตลอดทั้งปี ถือว่าเป็นทิศทางที่มีพลังงานของ “ธาตุน้ำ”
3. บ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันออก จะพบกันแสงแดดของพระอาทิตย์ในตอนเช้า ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับการที่ต้นไม้เริ่มผลิใบ เพื่อรับแสงแดดมาทำการสังเคราะห์แสง ถือว่าทิศนี้เป็นทิศสะสมพลังงานของ “ธาตุไม้”
4. บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก จะพบกับแสงแดดของพระอาทิตย์ในตอนบ่าย ถือว่าเป็นช่วงที่อากาศนั้นเริ่มจะเย็นแล้ว ถือว่าทิศตะวันตกนี้รับพลังงานของ “ธาตุทอง”
ในทางฮวงจุ้ยการเลือกทิศบ้านที่ดีที่สุดนั้น ควรปรับให้เข้ากับดวงชะตาของเจ้าของบ้านจะดีมาก ตัวอย่างเช่นหากเจ้าของบ้านเป็นคนธาตุน้ำ แม้ว่าไฟจะถือว่าเป็นธาตุโชคลาภของคนธาตุน้ำ แต่น้ำน้อยไม่อาจดับไฟ กลับจะทำให้ไฟมีแต่คุกรุ่นขึ้นหรือเรียกว่าเป็นดวงที่อาจจะเสียหายเรื่องโชคลาภเงินทองนั่นเอง การเลือกทิศบ้านนั้น หากเลือกบ้านที่หันไปทางทิศเหนือ ก็จะได้บ้านที่ประจุพลังงานของธาตุน้ำเข้าไป จะส่งผลให้ดวงชะตาของผู้ที่อยู่อาศัยดีขึ้นและสามารถจัดการกับอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ได้โชคลาภที่เพิ่มพูนมากขึ้นได้ และถ้าพิจารณาตามหลักทิศทางของธรรมชาติ ทิศที่ถือว่าดีและเป็นที่นิยมในการเลือกซื้อบ้านมากที่สุด มีอยู่ 2 ทิศด้วยกัน คือ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้ และบ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เนื่องจากบ้านที่หันทิศใต้ จะได้รับผลดีจากกระแสลมที่พัดเข้าบ้าน ซึ่งบ้านที่มีอากาศไหลเวียนดี ย่อมนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีด้วย นอกจากนี้ ในทางฮวงจุ้ย ยังถือเป็นทิศทางของทรัพย์หรือโชคลาภ ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศตะวันออก จะได้รับประโยชน์ในเรื่องของแสงแดด ตอนเช้าแสงส่องหน้าบ้านถือเป็นแดดดีไม่ร้อนเกินไป ส่วนตอนบ่าย หน้าบ้านจะร่ม สามารถทำกิจกรรมด้านหน้าตัวบ้านได้
ในทางฮวงจุ้ย ทิศหลังบ้านถือเป็นทิศที่หนุนและส่งเสริมเจ้าของบ้านด้วยเช่นกัน หากหลังแน่นมั่นคงเสียอย่าง ก็ไม่มีทางที่จะล้มง่ายๆ ซึ่งทิศหลังบ้านที่เป็นมงคลสำหรับคนธาตุต่างๆ มีดังนี้ ธาตุน้ำ (ปีชวดและกุน) คือทิศตะวันตก, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศเหนือ, ธาตุไม้ (ปีชวดและเถาะ) ทิศมงคลคือทิศเหนือ, ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้, ธาตุไฟ (ปีมะเส็งและมะเมีย) ทิศมงคลคือทิศตะวันออก, ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศใต้, ธาตุทอง (ปีวอกและปีระกา) ทิศมงคลคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันตกเฉียงใต้, ทิศตะวันตก และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สุดท้ายคนธาตุดิน (ปีฉลู, มะโรง, มะแมและจอ) ทิศมงคลคือทิศใต้, ทิศตะวันออกเฉียงแหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้
จะเห็นว่าหลักการเลือกทิศบ้านทั้งตามหลักธรรมชาติและฮวงจุ้ยนั้นมีข้อตรงกันอยู่ นั่นก็คือ หันหน้าบ้านไปทางทิศตะวันออก นั้นเอง ซึ่งทางผู้เขียนก็ขอนำบทความนี้มอบเป็นแนวทางให้แก่ท่านได้ในการตัดสินใจเลือกซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้าน
>>อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮวงจุ้ยสร้างบ้านได้ที่นี่ คลิก
บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร