รีโนเวทบ้านราคาเท่าไหร่ EP2
รีโนเวทบ้านราคาเท่าไหร่ เมื่อท่านตัดสินใจที่จะรีโนเวทบ้านได้แล้วนั้น สิ่งที่ท่านต้องคิดเป็นสิ่งแรกและเป็นเครื่องหมายคำถามก็คือจะต้องเตรียมเงินไว้ที่เท่าไหร่ หลังจากที่บทความที่แล้วที่ผู้เขียนได้อธิบายไปแล้วถึงหลักการคิดราคาที่ไม่ควรคิดแบบราคาเหมาเป็นตารางเมตรทั้งหลังเนื่องจากจะเกิดปัญหาเรื่องวัสดุที่ใช้กับผู้รับเหมาได้ในอนาคต(อ่านบทความที่แล้วได้ที่นี่ คลิก) แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าเราควรเตรียมเงินไว้ที่เท่าไหร่ ผู้เขียนขอแบ่งแนวทางการประเมินออกเป็น2แนวทางดังนี้
1 ประเมินจากเพื่อนบ้านและคนรู้จักที่เคยทำมาก่อน วิธีนี้จะทำให้ทราบในเบื้องต้นได้เลยว่าเพื่อนเค้าเคยทำได้ในราคาเท่าไหร่กับสไตล์แบบนั้น(ซึ่งแต่ละสไตล์การตกแต่งราคาย่อมแตกต่างกัน)และเทียบกับปริมาณงานที่เพื่อนได้รับจากราคานั้น โดยท่านอาจจะเพิ่มเติมขึ้นอีกจากราคาของเพื่อน ในการลงรายละเอียดการตกแต่งในส่วนที่ท่านชอบ เช่น เพื่อนเคยรีโนเวทบ้านมูลค่างาน1ล้านบาท แต่งานที่เพื่อนทำนั้นไม่ตรงกับสไตล์ของท่านเลยและท่านอยากจะตกแต่งเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆให้ดีมากกว่าที่เพื่อนได้ทำ ตรงนี้ท่านอาจจะเผื่องบเพิ่มอีกก็ได้เพื่อให้ท่านได้บ้านในแบบที่ท่านชอบโดยท่านอาจเพิ่มงบเป็น1.1-1.2ล้านก็ได้เพื่อให้ได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด เป็นต้น ซึ่งการสอบถามนี้จะทำให้เห็นภาพได้โดยง่ายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาที่ท่านทราบอาจจะเทียบได้เพียง75%ของราคาทำจริงเท่านั้น เพราะแต่ละหน้างานจะมีรายละเอียดงานที่ไม่เหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องคำนวณตามมูลค่าหน้างานจริง แต่ก็สามารถทำให้ท่านได้เห็นตัวเลขกลมๆก่อนนั่นเอง
2 สอบถามจากผู้รับเหมาโดยตรง ในกรณีที่ท่านมีเงินก้อนอยู่แล้วและต้องการนำเงินก้อนนั้นมารีโนเวทบ้าน ท่านจะนำเงินก้อนนั้นออกมาใช้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ท่านก็คุยรายละเอียดงานกับผู้รับเหมาได้เลย และให้ผู้รับเหมาประเมินการรีโนเวทตามงบประมาณที่ท่านกำหนดไว้ได้ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้จริงๆผู้รับเหมาก็จะแจ้งให้ท่านทราบได้เองว่าท่านจะต้องเพิ่มอีกเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้ท่านได้งานตรงกับความต้องการของท่านมากที่สุด
และเมื่อท่านวงเงินคร่าวๆแล้ว ในการหาผู้รับเหมามาทำงานให้ท่าน ท่านห้ามให้ผู้รับเหมา(ในกรณีผู้รับเหมารายย่อย)เหมางานท่านเป็นตัวเลขกลมๆอย่างเด็ดขาด ต้องมีการนำเสนอเป็นหัวข้อๆ และแจงรายละเอียดวัสดุที่ใช้อย่างละเอียดเพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาทะเลาะกันในเรื่องของวัสดุที่ใช้ในอนาคต เพราะผู้รับเหมาที่มีมาตราฐานและเป็นรูปแบบบริษัทที่ท่านสามารถไว้ใจเรื่องเงินงวดกับระยะเวลาการทำงานที่ควบคุมได้นั้นจะมีขั้นต่ำในการรับงานเป็นส่วนใหญ่(งานเล็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับ) ซึ่งหากเป็นงานที่เล็กกว่าจะเป็นผู้รับเหมารายย่อยเท่านั้นที่รับทำซึ่งจะเป็นช่างทำเอง ท่านอาจได้ราคาที่ถูกกว่าก็จริงแต่ก็เสี่ยงในการทำให้เสร็จตามเวลาที่กำหนดและการซื้อวัสดุมาใช้ในหน้างาน
**นั่นเพราะผู้รับเหมารายย่อยนั้นสภาพคล่องทางการเงินมีไม่มาก จำเป็นต้องเบิกเงินงวดทุกครั้งที่จะซื้อวัสดุมาทำหน้างานในกรณีเร่งงานให้เสร็จตามเวลา(ซึ่งก็มีหลายท่านไม่จ่ายให้เนื่องจากเห็นว่ามูลค่างานยังไม่ได้ตามที่ควร)ซึ่งหากรอกันไปรอกันมางานก็อาจล่าช้ากว่าที่ควรได้ โดยผู้รับเหมารายย่อยนั้นหากมีวินัยดีก็จะไม่มีปัญหา(ซึ่งก็มีมาก)แต่หากขาดวินัยเมื่อไหร่จะมีปัญหาตามมาอย่างมากมายในการทำงาน(ก็มีมากเช่นกัน) ท่านจึงจำเป็นต้องคัดเลือกให้ดีและให้เค้าแจงรายการราคาเป็นข้อๆเท่านั้น ผู้เขียนทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีเนื่องจากเคยผ่านทุกขั้นตอนมาหมดแล้วและคลุกคลีกับช่างมาอย่างยาวนาน**
ราคาอาจมีปรับเพิ่มจากตำแหน่งหน้างานและเวลาที่ทำ
ในแต่ละสถานที่ของงานที่ทำนั้นย่อมมีความแตกต่างกันของปัจจัยการทำงานและสภาพพื้นที่หน้างาน การทำงานยากหรือง่ายนั้นสภาพพื้นที่มีส่วนทั้งสิ้น ราคาที่แปรผันเพิ่มขึ้นนั้นสืนเนื่องมาจาก4สาเหตุ ดังนี้
1 อยู่ในเมือง การที่หน้างานอยู่ในเมืองที่การเดินทางเข้าทำงานต้องผ่านรถติดและหาที่จอดรถยากนั้น เป็นเหตุสำคัญที่ราคางานจะต้องเพิ่มขึ้นจากราคาปรกติ เช่น หน้างานอยู่ที่ถนนสุขุมวิทติดถนนไม่มีที่จอดรถ การเดินทางมาทำงานของช่างที่อาจมาถึงหน้างานช้ากว่าที่ทั่วไปและต้องเช่าสถานที่จอดรถรายวัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งในส่วนของเวลาการทำงานที่ช้าลงจนต้องเพิ่มคนงานให้มากขึ้นให้งานเสร็จตามกำหนดและการเสียค่าที่จอดรถ เป็นหนึ่งปัจจัยที่มีผล หรือบางที่อาจแก้ปัญหาโดยการมีรถรับ-ส่งช่าง ที่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นกัน รวมถึงสภาพหน้างานที่ต้องเกรงใจเพื่อนบ้านที่ทำงานช่วงค่ำไม่ได้ การทำOTจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก การแก้ปัญหาเรื่องการเพิ่มคนงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น เหล่านี้เป็นสาเหตุที่ราคางานจะต้องสูงกว่าหน้างานที่เข้าถึงได้ง่ายกว่านี้
2 อยู่ในคอนโดหรือนิติบุคคล เป็นอีกปัจจัยการทำงานที่ต้องมีกำหนดเวลาเลิกงานรวมถึงวันเสาร์-อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ ไม่สามารถทำได้ การเร่งงานหรือการทำงานที่มีข้อจำกัดทำได้ยากกว่า เช่น การขนย้ายวัสดุขึ้นทางลิฟท์ของงานคอนโดก็ใช้เวลามากกว่าหน้างานที่เป็นบ้านที่อยู่ชั้น1 เหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อราคาที่อาจเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
3 อยู่ต่างจังหวัดหรือสถานที่ห่างไกล นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มีผลต่อราคาได้ เนื่องจากช่างต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาทำงานที่มากกว่าทั่วไป หรือบางที่ช่างสามารถมานอนพักที่หน้างานได้ แต่การที่ไม่ได้อยู่บ้านนั้นค่าครองชีพก็ย่อมสูงกว่าการทำอาหารรับประทานเองอยู่ที่บ้านนั่นเอง
4 ค่าครองชีพสูง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคางานสูงกว่าทั่วไปเนื่องจากวัสดุที่ใช้ไม่ว่าจะเป็น ปูน หิน ทราย และวัสดุอื่นก็มีราคาสูงกว่าทั่วๆไป ทำให้ราคาย่อมสูงกว่า ยกตัวอย่างงานที่ผู้เขียนได้ไปทำอยู่ขณะนี้ที่จังหวัดกระบี่ ที่นี่ก็เป็นจังหวัดที่มีค่าครองชีพสูงมาก อาหารตามสั่งและอื่นๆของที่นี่ เริ่มต้นที่50บาท/จาน/ชาม หากไครได้เคยไปที่จังหวัดนี้ก็จะทราบเป็นอย่างดี รวมถึงค่าวัสดุในการก่อสร้างก็สูงกว่าตามไปด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผล หรือรวมถึงการทำงานบนเกาะเช่น เกาะสมุย ที่ของทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นเรือมาทั้งสิ้น วัสดุและอื่นๆจึงมีราคาสูงกว่าบนผืนแผ่นดินอย่างแน่นอน ในประเทศไทยมีอีกหลายสถานที่ที่ผู้เขียนไม่ได้ยกตัวอย่าง นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มีผลต่อราคา
รีโนเวทบ้านราคาเท่าไหร่ ท่านได้ทราบอย่างนี้แล้วการประเมินในเบื้องต้นก็คงไม่ยากอีกต่อไป ว่าท่านจะต้องเตรียมงบประมาณในการรีโนเวทไว้ในจำนวนที่เท่าไหร่ ซึ่งหากท่านอยู่ในลักษณะหน้างานที่ทำงานค่อนข้างยุ่งยากกว่าทั่วไปให้ท่านเผื่องบประมาณไว้อีกซัก 10-15% ก็จะเพียงพอ ส่วนการประเมินราคาแบบBOQผู้เขียนจะอธิบายในบทความต่อไป
>>อ่านบทความจุดเริ่มต้นก่อนตัดสินใจรีโนเวทบ้านได้ที่นี่ คลิก
>>ผลงานบางส่วนการรีโนเวทอาคารของเรา คลิก
บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร