งานผนังเบา
งานผนังเบา เป็นงานผนังที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งงานง่าย ให้ความสวยงามและเสร็จงานไว แต่เหมาะสำหรับงานภายในเท่านั้น หากใช้งานภายนอกจะไม่เหมาะสม เพราะถึงแม้จะเปลี่ยนวัสดุปิดผิวเป็นวัสดุที่กันน้ำแต่รอยต่อแผ่นในทุกๆแผ่นนั้น ถึงแม้จะเนียนเรียบสวยในตอนแรกแต่การใช้งานนั้นเมื่อผ่านเวลาไปซักระยะ เมื่อผนังนี้โดนฝนโดนแดดรอยต่อแผ่นจะแตกแยกออกมา ทำให้เป็นตำหนิแก่งานได้
งานผนังเบาจึงเหมาะสำหรับภายในที่ไม่ต้องการความแข็งแรงของผนังมากนัก เช่น ไม่แขวนตู้ลอย ไม่ติดตั้งชั้นวางของที่ต้องรับน้ำหนักต่างๆ แต่งานผนังเบานั้นสามารถแขวนสิ่งของที่น้ำหนักไม่มากได้แต่ต้องมีการวางแผนด้วยการเสริมโครงด้านในเป็นไม้อัด เช่น ต้องการแขวนทีวีติดผนัง แขวนรางประตูเลื่อน แขวนชั้นวางของที่รับน้ำหนักไม่มาก เป็นต้น
งานผนังเบาเหมาะสำหรับงานกั้นห้องตามร้านค้าต่างๆที่ต้องการความรวดเร็วของงาน หรืองานอื่นๆที่ไม่ได้ซีเรียสว่าผนังต้องแข็งแรงแต่เป็นงานภายใน ก็สามารถใช้ได้หมด ทำงานเสร็จเร็ว สวย และราคาถูกกว่าผนังคอนกรีตมากและทำงานได้เร็วกว่า เช่น งานผนังคอนกรีต กว้าง4เมตร x สูง2.7เมตร. เท่ากับ 10.8ตารางเมตร ถ้าเป็นงานคอนกรีตราคาต่อตารางเมตรเท่ากับ 700 บาท ส่วนผนังเบาราคาต่อตารางเมตรเท่ากับ 600 ผนัง10.8ตารางเมตรนี้มีส่วนต่างงานผนังเบาอยู่ที่ (10.8×700=7,560)-(10.8×600=6,480) = 1,080 บาท ถ้างานมากกว่านี้ตารางเมตรมากกว่า ก็จะประหยัดไปได้เป็นหมื่นบาท
งานผนังเบากันเสียงได้มั้ย? งานผนังเบาป้องกันเสียงได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่หากต้องการให้ผนังเบาเก็บเสียงได้ดีหรือเทียบเท่างานผนังอิฐมวลเบา สามารถใส่แผ่นซับเสียงเข้าไปได้ โดยใส่เข้าไปในช่องว่างของงานผนังนั่นเอง งานผนังเบาเก็บเสียงชนิดนี้เหมาะกับคลินิก สปา ห้องประชุม ออฟฟิศต่างๆ เป็นต้น
งานผนังเบาตกแต่งอะไรได้บ้าง? งานผนังเบาทั่วๆไปนั้นส่วนใหญ่จะใช้การทาสีหรือติดวอล์เปเปอร์ลวดลายต่างๆ รวมถึงอาจตกแต่งด้วยชั้นวางเก๋ๆที่รับน้ำหนักไม่มาก รวมถึงติดตั้งโครงไม้เพื่อตกแต่งด้วยผนังบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์สวยๆก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
งานผนังเบามีส่วนประกอบอะไรบ้าง
1 โครงคร่าวกัลวาไนซ์ตัวยู(U) โครงคร่าวกัลวาไนซ์หรืออีกชื่อคือ โครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสี จะใช้เพื่อรับโครงคร่าวตัวซี(C)โดยติดตั้งโครงตัวยูนี้กับเพดานและผนัง รวมถึงขอบบนประตูหน้าต่าง
2 โครงคร่าวกัลวาไนซ์ตัวซี(C) หรือโครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสีตัวซี ใช้สำหรับการตั้งเพื่อรับแผ่นยิปซั่มหรือแผ่นสมาร์ทบอร์ด โครงตัวซีนี้เป็นความแข็งแรงของผนังเบาเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตั้งให้มีความห่างอยู่ที่ 40-60cm. แต่ความห่างยิ่งน้อยก็จะยิ่งแข็งแรง
3 แผ่นยิปซั่ม เป็นแผ่นที่ใช้ปิดงานผนังเบาโดยส่วนใหญ่จะใช้ความหนาที่9mm. แผ่นยิปซั่มนี้เวลาซื้อจะมีทั้งขอบลาดและไม่ลาด ผู้เขียนแนะนำให้ใช้ขอบลาดเนื่องจากเวลานำแผ่นทั้ง2มาต่อแผ่นแล้ว รอยต่อจะจมลงเล็กน้อยเพื่อให้สามารถเก็บรอยต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและผนังไม่นูนหนาจนเกินไปนั่นเอง
4 แผ่นสมาร์ทบอร์ด เป็นแผ่นที่ใช้ปิดงานผนังเบา เราจะใช้ในกรณีที่ต้องการยึดสิ่งของต่างๆลงบนผนัง เนื่องจากแผ่นยิปซั่มไม่สามารถยึดสกรูได้ แต่แผ่นสมาร์ทบอร์ดสามารถขันยึดน็อตยึดสกรูได้ จึงสามารถตกแต่งผนังด้วยทีวีหรือชั้นวางของที่รับน้ำหนักไม่มากได้ ทำให้งานผนังเบามีความหลากหลายมากขึ้น
5 แผ่นซับเสียง เป็นแผ่นซับเสียงที่ติดตั้งอยู่ภายในผนังระหว่างโครงตัวซี แผ่นซับเสียงนี้มีขายอยู่หลายยี่ห้อด้วยกันมีขนาดที่นิยมคือ 40x120cm และ 60×120 หนา 5-10cm. แต่ส่วนใหญ่จะใช้ความหนาที่5-7cm.เนื่องจากใส่เข้าไปได้พอดีกับความหนาโครงตัวซี เนื่องจากโครงตัวซีกว้างที่6.5cm. แผ่นซับเสียงส่วนใหญ่จะทำมาจากฟองน้ำสักหลาดคุณภาพตามแต่ผู้ผลิตในยี่ห้อนั้นๆจะเลือกใช้ แต่จะมีคุณสมบัติที่เหมือนๆกัน การเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับว่างานนั้นๆต้องการลดเสียงหรือไม่
6 สกรู สกรูจะมีใช้อยู่2แบบ คือสกรูดำใช้สำหรับยึดแผ่นยิปซั่มเข้ากับโครงผนังเบา และสกรูปลายสว่านใช้สำหรับยึดโครงตัวยูเข้ากับผนังหรือฝ้าเพดาน โดยมีความยาวตามแต่จะเลือกใช้ตั้งแต่1/2นิ้วจนถึง1นิ้วด้วยกัน
7 ผ้าฉาบและผงยิปซั่ม ใช้สำหรับงานฉาบเก็บรอยต่อแผ่น โดยการใช้งานจะใช้ผ้าฉาบเพื่อป้องกันยิปซั่มแห้งแล้วแตกรวมถึงเพื่อความเนียนเรียบสวยของรอยต่อด้วย แล้วฉาบเก็บด้วยผงยิปซั่มที่ผสมน้ำแล้ว ส่วนใหญ่จะฉาบด้วยกัน2รอบ โดยรอบแรกจะฉาบเพื่อเก็บรอยต่อ ส่วนรอบที่2จะฉาบโดยรอยฉาบนี้จะกว้างขึ้นกว่ารอยฉาบในครั้งแรก นั่นก็เพื่อให้รอยต่อนั้นดูเนียนและดูกลมกลื่นไปกับแผ่นนั่นเอง
8 กระดาษทราย ส่วนใหญ่จะใช้กระดาษทรายขัดไม้หรือกระดาษทรายแดง เมื่อรอยฉาบที่ฉาบไว้แห้งดีแล้วจึงขัดออกให้เรียบด้วยกระดาษทราย ให้เรียบให้เนียนเพื่อทำการทาสีในขั้นตอนต่อไป
ส่วนประกอบและการทำงานของผนังเบาจะมีหลักๆเพียงเท่านี้ จะเห็นว่าขั้นตอนการทำงานไม่มากเลยทำให้งานผนังเบาเป็นงานที่ทำได้รวดเร็ว และงานออกมาสวยงามไม่ต่างจากงานคอนกรีต
การตรวจงานช่างผนังเบาสามารถตรวจได้ดังนี้
1 ตรวจระยะห่างของโครงตัวซี(C) โดยควรมีระยะห่างของโครงไม่มากกว่า40cm. หรือ60cm.สำหรับโครงที่มีความหนามากกว่า0.55mm.
2 ตรวจความแข็งแรง โครงทุกๆตัวจะต้องถูกขันน็อตให้แน่น จับแล้วต้องแน่นมือไม่แกว่งไม่โครงเครง
3 ตรวจฉาก โดยหากส่วนของงานผนังเบามีช่องประตูหรือหน้าต่างด้วย จะต้องตรวจให้โครงนั้นได้ฉากด้วย ไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อการติดตั้งประตูและหน้าต่างในอนาคต
4 ตรวจการยึดแผ่น การยึดแผ่นจะต้องมีความเรียบเสมอกันทุกแผ่น รอยต่อนั้นเกยกันได้ไม่เกิน 2mm. เนื่องจากหากเกยมากกว่านี้เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฉาบแล้วจะทำให้การฉาบเป็นคลื่นได้ และจะสะท้อนเห็นชัดเมื่อทาสีเสร็จแล้ว โดยเฉพาะทาสีกึ่งเงา
5 ตรวจการฉาบและขัด เมื่อช่างทำการฉาบและขัดเสร็จแล้ว ให้นำไม้บรรทัดหรืออะไรเรียบๆที่มีความยาวประมาณ30cm.มาวางทาบตรงรอยต่อ หากวางแล้วรอยฉาบขัดเป็นเนินนูนมากกว่า2-3mm. ให้ช่างมาขัดใหม่ ไม่เช่นนั้นเมื่อทาสีแล้วจะเห็นเป็นคลื่น ดูแล้วไม่สวยงาม รวมถึงส่วนต่างๆให้ดูให้ขัดเรียบเนียนสวยให้เรียบร้อยก่อนทำการทาสีในขั้นตอนถัดไป
สำหรับงานผนังเบา เป็นงานที่ต้นทุนถูกกว่างานคอนกรีตและใช้เวลาทำงานที่รวดเร็วกว่า จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำผนังเบามาใช้ในงานตกแต่ง แต่ทว่าผนังเบาควรเลือกใช้ให้เหมาะสมให้ถูกกับงานตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เพราะหากใช้งานผิดประเภทแล้วจะต้องมีการมาแก้ไขงานกันวุ่นวายในภายหลัง แทนที่งานจะเสร็จเร็วแต่กลับเสร็จช้าเพราะการแก้ไขงานนั่นเอง
>>อ่านเพิ่มเติมประเภทของงานผนัง คลิก
“เราเป็นมากกว่าบริษัทออกแบบก่อสร้างและตกแต่ง เพราะนอกจากเราจะเสนองานออกแบบและตกแต่งแก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ถึงขั้นตอนทางการก่อสร้างแก่ท่านควบคู่ไปด้วย เพราะมันคือสิ่งสำคัญเพื่อที่ท่านจะได้รู้ทันถึงขั้นตอนและมาตราฐานที่ดี นั่นก็เพื่อท่านจะได้ผลงานที่ดีกลับคืนสู่งานของท่านนั่นเอง” บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในร้านอาหารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรมืออาชีพและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร