เลือกทิศบ้านยังไงดีที่สุด รับสร้างบ้าน ให้สอดคล้องกับความต้องการ
เลือกทิศบ้านยังไงดีที่สุด รับสร้างบ้าน งานที่สำคัญสุดอย่างหนึ่งของสถาปนิกคือการเลือกทิศทางของบ้านให้รับกับกระแสลม และทำอย่างไรให้บ้านนั้นเย็นตลอดปี มีเทคนิค
หากท่านต้องการปลูกบ้านซักหลัง ท่านย่อมต้องการให้บ้านของท่านเย็นและอยู่สบายไช่ไหมครับ การที่บ้านท่านจะเย็นได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของสถาปนิคที่ดีมีความสามารถและประสบการณ์เป็นสำคัญ เพราะการออกแบบบ้านนอกจากจะต้องดูทิศทางของแสงแดดตามสถานที่ตั้งแล้ว ต้องให้รับกับทิศทางของกระแสลมด้วย กล่าวคือ ความสามารถของสถาปนิคนั้นต้องสามารถออกแบบโดยยึดหลักพื้นฐานของทิศทางดังกล่าวให้สัมพันธ์กับพื้นที่ภายในบ้านด้วย การลบจุดอับจุดตันและเพิ่มจุดรับ จะทำให้บ้านเย็นสบายได้
ทีนี่เราลองมาดูปัจจัยพื้นฐานกันก่อน โดยเริ่มจากทิศทางของแสงแดด ที่จะเข้าสู่บ้านของเราโดยตรง ทิศทางของแสงแดดนั้นไม่ได้เข้าตามเข็มทิศเสมอไปแบบ100% แสงอาทิตย์จะเดินมุมเฉียงและเดินอ้อมไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกตามฤดูกาล ตามการหมุนของแกนโลก ซึ่งฤดูกาลต่างๆนั้น จะเกิดขึ้นตามการหมุนของโลกเรานั่นเอง
แกนโลกของเราจะวางตัวในแนวเอียงประมาณ 23.5 องศา เทียบกับระนาบวงโคจรของโลก ซึ่งในขณะที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์นั้น แกนโลกจะเอียงเท่าเดิมเสมอ ทำให้มีช่วงเวลาที่โลกเอียงแกนข้างใดข้างหนึ่งเข้าหาดวงอาทิตย์มากกว่าอีกข้างหนึ่ง จะส่งผลให้เกิดเป็นฤดูกาลขึ้นมานั่นเอง การที่โลกเอียงแบบนี้และหมุนรอบดวงอาทิตย์ จะทำให้ตอนเที่ยงตรงของทุกวัน พระอาทิตย์จะไม่ได้อยู่บนศรีษะเราเสมอ แต่จะอยู่เฉียงออกไปตามฤดูกาล
จากภาพท่านจะเห็นว่าประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร และในขณะที่โลกหมุนรอบตัวเองตรงกับแสงอาทิตย์พอดี”ในช่วงเที่ยงนั้นแสงอาทิตย์จะไม่ได้อยู่ตรงกับเราพอดี ในฤดูร้อนพระอาทิตย์จะเดินเฉียงอ้อมไปทางทิศเหนือ ตรงกันข้าม ในฤดูหนาวพระอาทิตย์จะเดินเฉียงไปทางทิศใต้แทน เว้นแต่ช่วงเดือน มีนาคมและกันยายน ที่พระอาทิตย์จะตรงกับศรีษะเราพอดีในช่วงเที่ยง” ( และมีผลอย่างไรกันเรา ยกตัวอย่างเช่น ท่านไม่ต้องการให้แสงแดดเข้าหน้าบ้านในตอนบ่ายเพราะต้องการทำกิจกรรมยามบ่าย-เย็นที่หน้าบ้าน ท่านจึงหันหน้าบ้านไปทางทิศตะวันออกเพราะหวังให้เงาของตัวบ้านบังแสงแดดให้ และทำให้ช่วงบ่ายร่มและทำกิจกรรมได้ ซึ่งไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะใน1ปี ท่านจะไม่ได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวได้เลยในช่วงบ่าย นานถึง8เดือน เนื่องจากหน้าบ้านแสงแดดจะสาดเข้าอย่างเต็มที่จนกว่าจะร่มก็ต่อเมื่อพระอาทิตย์ผ่านตัวบ้านไปแล้วก็ประมาณ3-4โมงเย็น ในฤดูหนาวและฤดูร้อน เนื่องจากพระอาทิตย์เดินเฉียงนั่นเอง จะต้องมีการปรับแก้ในเรื่องแบบบ้านจึงจะตอบโจทย์นี้ได้) แสงแดดตามฤดูกาลนี้จะเกี่ยวข้องกับการเลือกทิศทางของบ้านให้รับกับกระแสลมโดยตรง เพราะกระแสลมก็แบ่งตามฤดูกาลเช่นกัน
โดยหลักการของการเกิดลมนั้นเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศ โดยอากาศที่มีอุณหภูมิสูงจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ อากาศที่ร้อนกว่าจะลอยตัวขึ้นสูง และอากาศที่เย็นกว่าจะเคลื่อนที่มาแทนในแนวระนาบ ดังนั้นทุกครั้งที่เราโดยลทพัดผ่านเราจึงรู้สึกเย็นสบาย และการที่แกนโลกเอียง 23 องศาทำมุมกับดวงอาทิตย์ เมื่อโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์จึงทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆ กับไปในรอบหนึ่งปี โดยการเกิดฤดูกาลนี้เองทำให้เกิดกระแสลมหลักๆ 2 ทิศทางในประเทศไทย
1.ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลมที่พัดผ่านประเทศไทยในฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ของทุกปี โดยเป็นช่วงที่โลกโคจรเอาแกนที่เอียงออกจากดวงอาทิตย์ ทำให้ส่วนพื้นผิวของโลกที่เป็นมหาสมุทรได้รับแสงอาทิตย์มากกว่าส่วนที่เป็นทวีป เมื่ออากาศบริเวณมหาสมุทรได้รับแสงอาทิตย์มากกว่าส่วนที่เป็นพื้นทวีป เมื่ออากาศบริเวณมหาสมุทรที่ส่วนใหญ่อยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ร้อนและลอยตัวสูงขึ้น จึงทำให้อากาศที่เย็นจากพื้นทวีปโดยเฉพาะจากประเทศจีน หรือทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่านเข้ามา เราจึงเรียกกระแสลมดังกล่าวว่าลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือโดยกระแสลมจะพัดผ่านค่อนมาทางทิศเหนือเป็นหลัก
2.ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นลมที่พัดผ่านประเทศไทยในฤดูร้อนและฤดูฝนประมาณ เดือนมีนาคม-ตุลาคม ของทุกปี โดยเป็นช่วงที่โลกโคจรเอาแกนที่เอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้ส่วนของโลกที่เป็นพื้นทวีปได้รับแสงอาทิตย์มากกว่าส่วนที่เป็นมหาสมุทร เมื่ออากาศบริเวณพื้นทวีปที่ส่วนใหญ่อยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือร้อนและลอยตัวสูงขึ้น จึงทำให้อากาศที่เย็นกว่าจากมหาสมุทรโดยเฉพาะจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้ามาแทนที่เราจึงเรียกกระแสลมดังกล่าวว่าลมมรสุมตะวันตกเฉีนงใต้ โดยกระแสลมจะพัดผ่านมาค่อนมาทางทิศใต้เป็นหลัก
ดังนั้นหากเราต้องการจะให้บ้านนั้นเย็นสบายมีกระแสลมไหลเวียนเข้าบ้านอยู่ตลอดเวลา ซินแสหรืออาจารย์ฮวงจุ้ยก็จะเน้นให้สร้างบ้านหรืออาคารในแนวหันทิศเหนือหรือหันทิศใต้เป็นหลัก เพราะจะทำให้บ้านสามารถรับกับกระแสลมที่พัดผ่านเข้ามาได้เต็มที่ โดยถ้าบ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ก็จะได้รับลมเป็นเวลามากกว่า เพราะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้นั้นพัดผ่านกินเวลา 8 ใน 12 เดือน แต่หากสร้างบ้านหันหน้าไปทางทิศเหนือก็จะได้รับลมเป็นเวลาน้อยกว่าบ้านที่หันทางทิศใต้ เพราะลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือนั้นพัดผ่านกินเวลา 4 ใน 12 เดือน
การที่บ้านหันไปทางทิศเหนือนั้นเองก็จะมีข้อดีชดเชยคือแดดจะไม่ค่อยเข้าที่หน้าบ้าน เพราะในประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ซึ่งประเทศไทยเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยส่วนใหญ่เกือบทั้งปีแสงแดดจะอ้อมเฉียงทิศใต้ ดังนั้นหากท่านต้องการเน้นลมผ่านเยอะๆ เกือบตลอดปี และส่วนตัวชอบแสงแดดก็สามารถเลือกบ้านที่หันไปทางทิศใต้ได้ แต่หากท่านยอมรับลมน้อยลงไปหน่อยแต่เน้นว่าแสงแดดไม่ค่อยเข้าที่หน้าบ้านก็สามารถเลือกบ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือใต้ จึงเกี่ยวข้องกับการออกแบบให้สัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
แต่สิ่งที่จะลืมไม่ได้คือเรื่องของการออกแบบบ้านเพราะการที่กระแสลมจะเข้าบ้านได้นั้นจะต้องมี “ช่อง” ให้ลมเข้า และยังไม่พอต้องมี “ช่อง” ให้ลมออกอีกด้วย ซึ่งช่องเหล่านั้นก็คือหน้าต่างและประตู ดังนั้นบ้านที่จะมีกระแสลมผ่านเข้าได้อย่างทั่วถึงก็ควรจะมีช่องประตู และหน้าต่างในปริมาณที่เหมาะสมด้วย จึงทำให้กระแสลม กระแสอากาศไหลเวียนถ่ายเทได้ดี เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่าบ้านที่มีประตูหน้าต่างเพียงพอ ในตอนกลางวันนั้นแสงธรรมชาติจะเข้าบ้านได้มากจนสว่างเพียงพอที่จะใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องเปิดไฟเพิ่มเติมเลย
โดยควรระวังในการออกแบบประตูหน้าต่างของบ้านที่บางครั้งออกแบบให้มีมากเกินไป หากประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้านพอดี แม้ว่ากระแสลมจะเข้าไปมากอย่างรวดเร็ว แต่กลับจะออกไปรวดเร็วด้วย ในบางครั้งซินแสฮวงจุ้ยเรียกเป็น “บ้านที่เก็บโชคไม่อยู่” ดังนั้นสถาปนิคจะต้องระวังการที่ออกแบบประตูหน้าบ้านให้ตรงกับประตูหลังบ้าน
ทิศทางลมดังกล่าวยังเป็นเพียงความรู้เบื้องต้นเท่านั้น เพราะในทิศหลัก 4 ทิศ คือ ใต้ , ออก , เหนือ และตกนั้น ยังแบ่งออกเป็น 24 ทิศทางย่อย จึงไม่ได้แปลว่าบ้านหันหน้าทิศใต้หรือหันทิศเหนือแล้วจะดีเสมอไปจึงต้องใช้ความสามารถของสถาปนิคที่มีประสบการณ์ บ้านของท่านจึงจะอยู่สบายและเย็นได้ตลอดปี
เมื่อมาถึงตอนนี้ท่านคงเข้าใจได้ถึงกระแสลมและแสงแดดในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้บ้านของท่านเย็นสบายขึ้นอีกนอกจากกระแสลมหลักที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งเรื่องของช่องลม ความสูงโปร่งของบ้าน แหล่งน้ำที่ทำให้ลมเย็นขึ้นและอีกมากมายหลากหลายปัจจัย ท่านจึงควรเลือกสถาปนิคที่มีประสบการณ์และใส่ใจ รวมถึงมีความรู้ในด้านนี้เป็นอย่างดี มาออกแบบบ้านให้กับท่าน ดูตัวอย่างบ้านที่น่าสนใจได้ ที่นี่
เลือกทิศบ้านยังไงดีที่สุด รับสร้างบ้านและสุดท้ายนี้หากท่านต้องการปลูกบ้านหรือสร้างบ้านที่ต้องการสถานิกและช่างฝีมือดี เราคือบริษัทฯที่มีความพร้อมและความรู้อย่างมากมายในเรื่องต่างๆเหล่านี้ ท่านสามารถให้เราออกแบบและก่อสร้างให้กับท่านได้ และคำว่า “มืออาชีพ” ท่านจะไม่ต้องไปหาที่อื่นอีกเลย
สนใจติดต่อ